เมนู

ปฏิปทา 4 เหล่านั้น ว่าโดยพระบาลี ได้จิต 36 ดวง แต่ว่าโดยอรรถ
(ใจความ) ได้จิต 20 ดวงเท่านั้น เพราะความที่ฌานจตุกนัยก็รวมอยู่ในฌาน
ปัญจกนัยแล.
ปฏิปทา จบ

อธิบายอารมณ์ของฌาน 4



บัดนี้ ชื่อว่า ฌานนี้มี 4 อย่าง แม้โดยประเภทอารมณ์ เหมือน
ประเภทปฏิปทา เพราะฉะนั้น เพื่อทรงแสดงประเภทอารมณ์นั้นแห่งฌานนั้น
จึงเริ่มคำเป็นต้น ว่า กตเม ธมฺมา กุสลา ดังนี้อีก.
พึงทราบวินิจฉัยในรูปาวจรกุศลฌานนั้นมีคำเป็นต้น ว่า ปริตฺตํ ปริตฺ-
ตารมฺมณํ
(ฌานมีกำลังน้อย มีอารมณ์เล็กน้อย) ต่อไป ฌานใดไม่คล่องแคล่ว
(มีคุณน้อย) ไม่สามารถเป็นปัจจัยแก่ฌานในเบื้องบน ฌานนี้ ชื่อว่า ปริตตะ
ส่วนฌานใด เป็นไปในอารมณ์มีนิมิตเท่ากระด้ง หรือเท่าขันน้ำ ซึ่งขยายขึ้น
ไม่ได้ ฌานนี้ชื่อว่า ปริตตะ อารมณ์เป็นปริตตะของฌานนี้มีอยู่ เพราะเหตุนั้น
ฌานนั้น จึงชื่อว่า ปริตตารมณ์ (มีอารมณ์เล็กน้อย). ฌานใดคล่องแคล่ว
อบรมดีแล้ว สามารถเป็นปัจจัยแก่ฌานเบื้องบน ฌานนี้ ชื่อว่า อัปปมาณ. ฌาน
ใดเป็นไปในอารมณ์อันกว้างขวาง ฌานนั้นก็ ชื่อว่า อัปปมาณ เพราะกำหนด
นิมิตที่เจริญได้. อารมณ์เป็นอัปปมาณ มีอยู่แก่ฌานนั้น เพราะเหตุนั้น ฌานนั้น
จึงชื่อว่า อัปปมาณารมณ์ (อารมณ์ไม่มีประมาณ). อนึ่ง พึงทราบนัยที่
เจือกันเพราะความที่ลักษณะตามที่กล่าวแล้วเจือกัน พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
ธรรมหมวด 9 ไว้ 4 หมวด แม้ด้วยสามารถแห่งอารมณ์ ดังพรรณนามาฉะนี้
อนึ่ง การนับจิตในประเภทแห่งอารมณ์นี้ เหมือนกับประเภทแห่งปฏิปทานั่นแล.
อารมณ์ของฌาน 4 จบ